วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

.-*~*-.วันสำคัญและวันที่ระลึกของประเทศญี่ปุ่น!! ((Special day of Japan!!)).-*~*-.
วันสำคัญของญี่ปุ่น วันที่ระลึกประหลาดๆ เป็นที่กล่าวขานกันว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เก่งเรื่องการสร้างเทศกาลต่างๆ ทำให้ญี่ปุ่นมีวันสำคัญและวันที่ระลึกต่างๆที่แปลกประหลาดมากๆ เวลาบอกชื่อวันสำคัญหรือวันที่ระลึกของญี่ปุ่นให้คนประเทศอื่นฟัง เขาก็อาจจะงงได้ว่า มีวันแบบนี้ด้วยเหรอ ในบทความนี้จึงขอทำการเล่าสู่กันฟังว่าวันสำคัญและวันที่ระลึกต่างๆของญี่ปุ่นในปีๆนึงนั้นมีวันอะไรกันบ้าง และมีความสำคัญหรือความประหลาดอย่างไร ก่อนอื่นขอทำการแบ่งวันสำคัญของญี่ปุ่นออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. วันสำคัญที่เป็นวันหยุดราชการ (祝日) , 2. วันสำคัญที่ไม่ใช่วันหยุดแต่เป็นพิธีกรรม (行事) และ 3. วันที่ระลึกประหลาดๆ ((おもしろい)記念日)
1. วันสำคัญที่เป็นวันหยุดราชการ (祝日) วันสำคัญที่เป็นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น มีทั้งหมด 14 วันในญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการกำหนดวันสำคัญ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นมีความเห็นว่า หากมีวันหยุดในวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันจันทร์ จะทำให้การทำงานต่างๆขาดความต่อเนื่องได้ เพื่อส่งเสริมให้การทำงานต่างทั้งในส่วนราชการและเอกชนมีความต่อเนื่องมากที่สุด จึงตัดสินใจกำหนดวันสำคัญหลายๆวัน ให้เป็นวันจันทร์ ซึ่งจะทำให้มีวันหยุด 3 วันติดต่อกันคือ เสาร์ , อาทิตย์ และจันทร์ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าหยุดติดต่อกันหลายๆวันว่า Renkyuu (連休) หยุดติดต่อกัน 3 วัน ก็เรียกว่า 3連休 ใครที่สงสัยว่าทำไมญี่ปุ่นมีวันหยุดที่เป็นวันจันทร์เยอะจัง ก็คงหายสงสัยแล้วใช่ไหมครับ เป็นนโยบายส่งเสริมการทำงานของรัฐบาลนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการตัดวันสิ้นปี (New Year's Eve) นั่นคือวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ออกจากการเป็นวันหยุดราชการตั้งแต่ปี 2001 ด้วย
วันสำคัญที่เป็นวันหยุดราชการของญี่ปุ่นในปัจจุบันมีดังนี้
1. วันขึ้นปีใหม่ (元旦 : อ่านว่า Gantan / ชื่อภาษาอังกฤษ : New Year's Day) ตรงกับวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี ความสำคัญ: เป็นวันฉลองการเริ่มต้นของปี
2. วันบรรลุนิติภาวะ (成人の日 : อ่านว่า Seijin No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Coming of Age Day) ตรงกับ วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ของทุกปี ความสำคัญ: จนถึงปี 1999 วันบรรลุนิติภาวะ คือวันที่ 15 มกราคมของทุกปี และถูกเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ตั้งแต่ปี 2000 ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นวันฉลองการบรรลุนิติภาวะของวัยรุ่นญี่ปุ่น เป็นวันที่ระลึกถึงการได้ขึ้นเป็นผู้ใหญ่ของตนเอง ซึ่งต่อจากนี้จะต้องมีความพยายามและความรับผิดชอบต่างๆ และรู้จักวางแผนในชีวิตด้วยตนเอง หนุ่มสาวที่อายุครบ 20 ปี ในปีนั้น จะมีพิธีฉลองเกิดขึ้นที่อำเภอของเมืองที่ตนเองอยู่ด้วย เรียกว่า 成人式 (Seijin Shiki)
3. วันที่ระลึกการตั้งประเทศ (建国記念日 : อ่านว่า Kenkoku Kinenbi / ชื่อภาษาอังกฤษ : National Foundation Day) ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ของทุกปี ความสำคัญ: เป็นวันระลึกถึงการก่อตั้งประเทศญี่ปุ่น ส่งเสริมให้คนเกิดมีใจรักชาติ
4. วันวสันตวิษุวัต (春分の日 : อ่านว่า Shunbun No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : First Day of Spring / Vernal Equinox Day) ตรงกับประมาณวันที่ 21 มีนาคมของทุกปี ความสำคัญ: เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งกลางวันจะเท่ากับกลางคืน เป็นวันสำหรับชื่นชมธรรมชาติ และเมตตาเอ็นดูต่อสิ่งมีชีวิต
5. วันสีเขียว (みどりの日 : อ่านว่า Midori No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Greenery Day) ตรงกับวันที่ 29 เมษายน ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันเกิดของจักรพรรดิองค์ก่อนในสมัยโชวะ (昭和時代) นั่นคือ จักรพรรดิโชวะ (昭和天皇) ปัจจุบันเป็นวันสำหรับระลึกถึงบุญคุณที่ธรรมชาติมีให้แก่มนุษย์
6. วันรัฐธรรมนูญ (憲法記念日 : อ่านว่า Kenpou Kinenbi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Constitution Day) ตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันที่ระลึกถึงการเริ่มใช้รัฐธรรมนูญครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ทำให้นึกถึงการเติบโตและพัฒนาของประเทศญี่ปุ่น
7. วันเด็ก (こどもの日 : อ่านว่า Kodomo No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Children's Day) ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันที่ฉลองความเป็นเด็ก และขอบคุณมารดา นอกจากนี้ยังเป็นวันเทศกาลเด็กผู้ชายด้วย (端午の節句 : Tango No Sekku)
* หมายเหตุ วันหยุดยาวในช่วงนี้ คือช่วงราวๆวันที่ 3-5 พฤษภาคม เรียกกันว่า Golden Week (ゴールデンウィーク) ของญี่ปุ่น
8. วันแห่งทะเล (海の日 : อ่านว่า Umi No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Marine Day) ตรงกับวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฏาคม ของทุกปี  ความสำคัญ : จนถึงปี 1999 วันแห่งทะเล คือวันที่ 20 กรกฏาคมของทุกปี และถูกเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ตั้งแต่ปี 2000 ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นวันแห่งการขอบคุณถึงบุญคุณของทะเล และอวยพรขอให้ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศแห่งมหาสมุทรเจริญรุ่งเรืองต่อไป
9. วันเคารพผู้สูงอายุ (敬老の日 : อ่านว่า Keirou No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Respect-for-senior-citizens Day) ตรงกับวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกันยายน ของทุกปี ความสำคัญ : จนถึงปี 1999 วันแห่งทะเล คือวันที่ 17 กันยายนของทุกปี และถูกเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ตั้งแต่ปี 2000 ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นวันแห่งการเคารพรักผู้สูงอายุที่อยู่ในสังคมมาหลายปี และฉลองความมีอายุยืนยาว
10. วันศารทวิษุวัต (秋分の日 : อ่านว่า Shuubun No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : First Day of Autumn / Autumnal Equinox Day) ตรงกับประมาณวันที่ 23 กันยายน ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งกลางวันจะเท่ากับการคืน เป็นวันสำหรับเคารพบรรพบุรุษ และระลึกถึงผู้คนที่เสียชีวิตไปแล้ว
11. วันแห่งกีฬา (体育の日 : อ่านว่า Taiiku No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Sports Day / Health Sports Day) ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ของทุกปี ความสำคัญ : จนถึงปี 1999 วันแห่งทะเล คือวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี และถูกเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ตั้งแต่ปี 2000 ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นวันที่ส่งเสริมให้คนรักกีฬาและมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง
12. วันวัฒนธรรม (文化の日 : อ่านว่า Bunka No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Culture Day) ตรงกับวันที่ 3 พฤศจิกายน ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันส่งเสริมให้คนรักอิสระเสรีภาพ และส่งเสริมวัฒนธรรม
13. วันขอบคุณแรงงาน (勤労感謝の日 : อ่านว่า Kinrou Kansha No Hi / ชื่อภาษาอังกฤษ : Labor Thanksgiving Day) ตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันหยุดพักจากการทำงานมาตลอดปี ฉลองการผลิตที่ตนได้ทำ และส่งเสริมให้คนในประเทศญี่ปุ่นขอบคุณซึ่งกันและกัน
14. วันเกิดจักรพรรดิ์ (天皇誕生日 : อ่านว่า Tennou Tanjyoubi / ชื่อภาษาอังกฤษ : The Emperor's Birthday) ตรงกับวันที่ 23 ธันวาคม ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันฉลองวันเกิดของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน
*หากวันหยุดราชการตรงกับวันอาทิตย์ วันถัดไป(วันจันทร์)จากวันนั้นจะเป็นวันหยุดราชการด้วย
2. วันสำคัญที่ไม่ใช่วันหยุดแต่เป็นพิธีกรรม (行事) วันเหล่านี้เป็นเทศกาลสำคัญต่างๆของญี่ปุ่น ที่ถือเป็น
พิธีกรรม แต่ไมใช่วันหยุดราชการ
1. วันก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิ (節分 : อ่านว่า Setsubun) ตรงกับวันที่ 3 หรือ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นวันที่หว่านเมล็ดถั่วเพื่อกำจัดความชั่วร้าย และนำความสุขความโชคดีเข้าสู่ตนเอง
2. เทศกาลฮินะ (ひな祭り : อ่านว่า Hina Matsuri) ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี ความสำคัญ : เป็นเทศกาลของเด็กผู้หญิงเพื่อฉลองการประดับตุ๊กตา
3. วันแม่ (母の日 : อ่านว่า Haha No Hi) ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม ของทุกปี
4. วันพ่อ (父の日 : อ่านว่า Chichi No Hi) ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน ของทุกปี
5. วันทานาบาตะ (七夕の日 : อ่านว่า Tanabata No Hi) ตรงกับวันที่ 7 กรกฏาคม ของทุกปี) ความสำคัญ : เป็นวันประดับดวงดาว เนื่องจากตำนานที่ว่าในปีหนึ่งดาวคนเลี้ยงวัว (牽牛星 : Kengyuusei) จะมีพบกับดาวหญิงทอผ้า (女織星) ที่ทั้งสองข้างของฝั่งแม่น้ำสวรรค์ (ทางช้างเผือก) เพียงครั้งเดียว ซึ่งคือในวันนี้
6. โอบ้ง (お盆 : อ่านว่า Obon) ตรงกับวันที่ 13-16 สิงหาคมของทุกปีโดยประมาณ (ในบางพื้นที่คือวันที่ 13-16 กรกฏาคมของทุกปี) ความสำคัญ : เป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าบรรพบุรุษที่ตายไปแล้วจะกลับมาที่โลกนี้ในช่วงต้นของช่วงเวลา และกลับไปที่โลกเก่าอีกครั้งในช่วงปลายของช่วงเวลา ส่วนมากบริษัทต่างๆจะหยุดยาวเพื่อให้พนักงานกลับไปทำความเคารพหลุมศพของบรรพบุรุษของตนเองที่บ้านเกิด
7. เทศกาล 753 (七五三 : อ่านว่า Shichigosan) ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายนของทุกปี ความสำคัญ : เป็นเทศกาลฉลองการเติบโตของเด็กชายและหญิงอายุ 3 ขวบ , เด็กชายอายุ 5 ขวบ และเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ
3. วันที่ระลึกประหลาดๆ ((おもしろい)記念日) วันที่ระลึกประหลาดๆมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งวันเหล่านี้ ที่ได้รับการบัญญัติอย่างเป็นทางการจากสมาคมวันที่ระลึกแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本記念日協会) แล้ว จึงขอทำการแนะนำวันที่น่าสนใจบางวันที่เลือกมาจากแต่ละเดือนดังนี้
1. วันแห่งภาพยนตร์ (映画の日 : Eiga No Hi) ตรงกับวันที่ 1 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนไปดูภาพยนตร์
2. วันแห่งการจราจรปลอดภัย (交通安全の日 : Koutsuu Anzen No Hi) ตรงกับวันที่ 1 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ขับรถด้วยความเร็ว
3. วันแห่งข้าว (お米の日 : Okome No Hi) ตรงกับวันที่ 8 และ 28 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ระลึกถึงข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวญี่ปุ่น
4. วันแห่งความรัก , ความปรารถนา และความกล้าหาญ (愛と希望と勇気の日 : อ่านว่า Ai To Kibou To Yuuki No Hi) ตรงกับวันที่ 14 มกราคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เมื่อ 14 มกราคม 1959 เป็นวันที่เฮลิคอปเตอร์ที่บินออกจากเรือสังเกตุการณ์ขั้วโลกใต้ที่ชื่อ Souya (宗谷) ได้บินจอดถึงฐานทัพโชวะ และพบว่าสุนัขทหารที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ฐานทัพเมื่อปีก่อนหน้าจำนวน 15 ตัว มีชีวิตรอเพียง 2 ตัว คือสุนัขชื่อ ทาโร่ และ จิโร่ (タロ・ジロ)
5. วันแห่งแกงกระหรี่ (カレーの日 : Curry No Hi) ตรงกับวันที่ 22 มกราคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทำและรับประทานแกงกะหรี่
6. วันแห่งการปวดหัว (頭痛の日 : Zutsuu No Hi) ตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนีขึ้นมา : รณรงค์ไม่ให้คนทำอะไรมากเกินไปจนปวดหัว
7. วันแห่งชาเขียว (抹茶の日 : Maccha No Hi) ตรงกับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มชาเขียวเพื่อสุขภาพ
8. วันแห่งนามสกุล (苗字の日 : Myouji No Hi) ตรงกับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นที่ระลึกสำหรับการเริ่มใช้นามสกุลเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปีเมจิที่ 8
9. วันวาเลนไทน์ (バレンティンディー : Valentine's Day) และ วันแห่งชอกโกแล็ต (チョコレートの日 : Chocolate No Hi) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่สืบทอดมาจากต่างประเทศ ที่หนุ่มสาวจะให้ของขวัญแก่กันเพื่อแสดงความรัก สำหรับในญี่ปุ่น เป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ชอกโกแล็ตแก่ผู้ชายเพื่อแสดงความรัก ซึ่งแพร่หลายขึ้นมาจากการโฆษณาของบริษัทผลิตชอกโกแล็ตของญี่ปุ่น สมาคมชอกโกแล็ตและโกโก้ (チョコレート・ココア協会) จึงบัญญัติวันนี้ขึ้นมาเป็นวันแห่งชอกโกแล็ตด้วย
10. วันแห่งแมว (猫の日 : Neko No Hi) ตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เนื่องจากแมวที่ญี่ปุ่นร้องว่า ニャー、ニャー、ニャー ขึ้นต้นด้วยคันจิที่เหมือนกับเลข 2 ด้วยกัน 3 อัน วางเรียงกันได้เป็น 222 ซึ่งแปลงเป็นวันที่ได้วันที่ 2/22
11. วันแห่งบันไดเลื่อน (エスカレータの日 : Escalator No Hi) ตรงกับวันที่ 9 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่มีการใช้บันไดเลื่อนขึ้นที่ห้างมิตสึโกชิ (三越) สาขา นิฮงบาชิ (日本橋) ในวันที่ 9 มีนาคม ปีไทโช ที่ 3
12. วันสีขาว (ホワイトディー : White Day) และ วันแห่งลูกกวาด (キャンディの日 : Candy No Hi) ตรงกับวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่มีคู่กับวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ชายให้ของตอบแทนแก่ผู้หญิงที่ให้ชอกโกแล็ตกับตนในวันวาเลนไทน์ โดยสิ่งของที่ให้จะต้องเป็นสีขาว ทางสมาคมลูกกวาดแห่งประเทศญี่ปุ่น (全国飴菓子工業協同組合) ต้องการรณรงค์ให้คนให้สิ่งของเป็นลูกกวาด จึงตั้งวันนี้เป็นวันแห่งลูกกวาด (キャンディの日)
13. วันแห่งซากุระ (さくらの日 : Sakura No Hi) ตรงกับวันที่ 27 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : สมาคมซากุระแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本さくらの会) ตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการบานของดอกซากุระ ที่โดยเฉลี่ยจะบานเต็มที่ในวันนี้มากที่สุด
14. วันแห่งกระเทย (オカマの日 : อ่านว่า Okama No Hi) ตรงกับวันที่ 4 เมษายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่อยู่ระหว่างกลางของวันเทศกาลลูกท้อ (桃の節句 : Momo No Sekku) เป็นวันสำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งคือวันที่ 3 มีนาคม (3/3) และวันเทศกาลเด็กผู้ชาย (端午の節句 : Tango No Sekku) ซึ่งคือวันที่ 5 พฤษภาคม (5/5) จึงตั้งวันที่อยู่กึ่งกลางนั่นคือวันที่ 4 เมษายน (4/4) เป็นวันสำหรับคนครึ่งหญิงครึ่งชาย นั่นคือกระเทย (คำว่า Okama แปลว่า กระเทย)
15. วันแห่งเซนต์จอร์ดี้ (サン・ジョルディの日 : St.Jordi's Day) ตรงกับวันที่ 23 เมษายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่ผู้ชายให้ดอกกุหลาบแก่ผู้หญิง และผู้หญิงให้หนังสือเป็นของขวัญแก่ผู้ชาย ซึ่งเกิดขึ้นจากความเคลื่อนไหวของวงการสิ่งพิมพ์เมื่อปี 1987 โดยมีที่มาจากประเพณีของประเทศสเปน ในย่านบาร์เซโลน่า เพื่อต้องการชื่นชมนักรบเทพผู้ปกป้องเมืองชื่อ เซนต์ จอร์ดี้ ด้วยประเพณีที่ผู้ชายให้ดอกกุหลาบแก่ผู้หญิง และผู้หญิงให้ของแก่ผู้ชาย
16. วันแห่งขยะ (ゴミの日 : Gomi No Hi) ตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทิ้งขยะโดยแยกชนิดของขยะอย่างถูกต้อง
17. วันแห่งนาโกย่า (名古屋の日 : Nagoya No Hi) ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ที่ทำการเมืองนาโกย่าตั้งวันนี้ขึ้นมาเมื่อปี เฮเซ ที่ 8 เป็นช่วงเทศกาลนาโกย่า (名古屋祭り)
18. วันแห่งการท่องเที่ยว (旅の日 : Tabi No Hi) ตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น
19. วันแห่งรูปถ่าย (写真の日 : Shashin No Hi) ตรงกับวันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : สมาคมรูปถ่ายแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本写真協会) ตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการถ่ายรูป
20. วันแห่งนม (ミルクの日 : Milk No Hi) ตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มนม
21. วันแห่งอุด้ง (うどんの日 : Udon No Hi) ตรงกับวันที่ 2 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนรับประทานอุด้ง
22. วันแห่งเรือเหาะตีลังกา (ジェットコースターの日 : Jet Coaster No Hi) ตรงกับวันที่ 9 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่มีเรือเหาะตีลังกาติดตั้งในสวนสนุกที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม ปีโชวะที่ 30
23. วันแห่งแฮมเบอร์เกอร์ (ハンバーガーの日 : Hamberger No Hi) ตรงกับวันที่ 20 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 20 กรกฏาคม ปีโชวะที่ 46 เป็นวันแรกที่มีร้าน แมคโดนัล เปิดขึ้นในญี่ปุ่น ที่ชั้นหนึ่งของห้างมิทสึโกชิ (三越) ในย่านกินซ่า
24. วันแห่งหมากรุกญี่ปุ่น (マージャンの日 : Majyan No Hi) ตรงกับวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนเล่นหมากรุกญี่ปุ่น (麻雀)
25. วันแห่งคนอ้วน (デブの日 : Debu No Hi) ตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่ระลึกสำหรับคนอ้วน
26. วันแห่งเนื้อย่าง (焼肉の日 : Yakiniku No Hi) ตรงกับวันที่ 29 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทานเนื้อย่าง ตั้งโดยสมาคมเนื้อย่างแห่งประเทศญี่ปุ่น (全国焼肉協会)
27. วันแห่งผัก (野菜の日 : Yasai No Hi) ตรงกับวันที่ 31 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทานผัก
28. วันเกิดโดราเอม่อน (ドラえもんの誕生日 : Doraemon No Tanjyoubi) ตรงกับวันที่ 3 กันยายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่การ์ตูนเรื่องโดราเอม่อนถูกเขียนขึ้นมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปีโชวะที่ 45
29. September Valentine's Day (セプテンバーバレンタイン) ตรงกับวันที่ 14 กันยายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : วันครบครึ่งปีพอดีหลังจากวัน White Day (14 มีนาคม) ซึ่งหากผู้ชายถูกผู้หญิงที่ตนตกลงยอมรับความรักเลิกในวันนี้ ก็จะถือว่าไม่เป็นอะไร
30. วันแห่งเหล้าญี่ปุ่น (日本酒の日 : Nihonshu No Hi) ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มเหล้าญี่ปุ่น
31. วันแห่งสุนัข (犬の日 : Inu No Hi) ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ส่งเสริมให้คนรักและระลึกถึงสุนัข
32. วันแห่งอพาร์ตเม้นท์ (アパートの日 : Apartment No Hi) ตรงกับวันที่ 6 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 6 พฤศจิกายน ปีเมจิที่ 43 เป็นวันแรกที่มีอพาร์ตเม้นท์ตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ในย่านอุเอโนะ (上野) ในโตเกียว
33. วันป๊อกกี้และปริทซ์ (ポッキー&プリッツの日 : Pocky&PRETZ No Hi) ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : กูลิโกะ บริษัทผลิต ป๊อกกี้และปริทซ์ ตั้งวันป๊อกกี้และปริทซ์ ขึ้นมาเมื่อ ปีเฮเซที่ 11 เดือน 11 วันที่ 11 หากนำวันและเดือนและปี มาเขียนเรียงติดกัน ก็จะได้เป็น 111111 ซึ่งเหมือนกับแท่งป๊อกกี้และปริทซ์ 6 แท่ง ในโฆษณาของป๊อกกี้เอง ก็มีการโชว์แท่งป๊อกกี้ 4 แท่งในมือของพรีเซนเตอร์ด้วย (เพราะว่าปีเฮเซที่ 11 เลยมาแล้ว) จุดประสงค์ที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา คงไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการส่งเสริมการขายป๊อกกี้ มีการจัดแคมเปญต่างๆเกี่ยวกับป๊อกกี้และปริทซ์ในวันที่11/11 ของทุกๆปีด้วย
34. วันแห่งโรงแรม (ホテルの日 : Hotel No Hi) ตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 20 พฤศจิกายน ปีเมจิที่ 23 เป็นวันแรกที่ Teikoku Hotel (帝国ホテル) โรงแรมแห่งแรกในญี่ปุ่นเปิดให้ใช้บริการ
35. วันแห่งไก่ทอด (フライドチキンの日 : Fried Chicken No Hi) ตรงกับวันที่ 21 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 21 พฤศจิกายน ปีโชวะที่ 45 เป็นวันแรกที่มีร้านไก่ทอด เคนตักกี้ เปิดในญี่ปุ่น ที่นาโกย่า
36. วันแห่งโซบะ (そばの日 : Soba No Hi) ตรงกับวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีประเพณีการทานโซบะข้ามปี (年越しそば : Toshikoshi Soba) จึงบัญญัติวันนี้ขึ้นเป็นวันรณรงค์การทานโซบะ

วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

NatureJapon : le pays des tremblements de terre

Ce week-end, un tremblement de terre (on dit aussi séisme) a secoué le nord du Japon. Ce pays est l’un des plus touché du monde par les tremblements de terre.

Les séismes provoquentdes dégâts impressionnants

Tous les ans, le Japon enregistre près de 1400 séismes. Tous ne sont pas aussi dangereux que celui du week-end dernier. On les mesure et on les note selon une graduation précise appelée échelle de Richter.Un tremblement de terre de 1 sur cette échelle est une secousse tellement petite que personne ne la ressent. Le niveau 9 est très rare. C’est un super tremblement : il détruit tout ou presque dans la région où il se trouve et fait parfois des dégâts plusieurs milliers de kilomètres plus loin…Le séisme qui s’est produit samedi au Japon, était de niveau 6,8. Il a fait 24 morts et plus de 2200 blessés. C’est celui qui a fait le plus de dégâts depuis 1995 (un séisme avait fait 6400 morts et plus de 43000 blessés).Pour éviter que beaucoup de gens meurent pendant des tremblements de terre, le Japon a construit des habitations qui résistent aux tremblements de terre. Chaque année, les Japonais font des exercices pour s’entraîner à bien agir en cas de séisme. Du coup, de moins en moins de personnes meurent même si les séismes sont très dangereux.
อ่านแล้วมาลองทำแบบฝึกหัดดูนะ

1.Lequel de ces énoncés est faux ?

a.Le séisme de niveau 6,8 pourrait tuer des milliers de victimes.
b.Tous les tremblements de terre provoquent d'importants dégâts.
c.Le séisme du samedi dernier a fait le plus de morts depuis 1995.
d.Les Japonais meurent de moins en moins aux tremblements de terre.


2.Que font les Japonais pour se protéger des tremblements de terre ?
a.Ils s'entraînent tous les jours.
b.Ils enregistrent tous les tremblements de terre.
c.Ils vont vivre à la campagne.
d.Ils construisent des habitations qui résistent mieux aux séismes.

3.Quel est un autre mot qui signifie "tremblement de terre" ?
a.dégât
b.secouse
c.graduation
d.séisme

4.Lequel de ces énoncés est vrai ?
a.Le super tremblement de terre n'est presque pas ressenti.
b.Le tremblement de terre le plus catastrophique s'est produit en 1995.
c.L'échelle de Richter indique la vitesse des tempêtes.
d.Le séisme qui s'est produit samedi dernier au Japon était le plus dangereux de l'Histoire.

5." Le Japon est l'un des pays les plus touchés du monde par les tremblements de terre.", cela veut dire que c'est au Japon ............................
a.qu'il y a le plus de tremblements de terre.
b.que les séismes sont les plus dangereux.
c.qu'il y a le plus de dégâts.
d.que les tremblements secouent le plus fort.
เฉลย
1.2 2.4 3.4 4.2 5.1

By อ.เกรียงไกร

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ทบทวนความรู้ของชั้นม.4
Souhaiter quelque chose à quelqu'un
Au moment de commencer un repas : [ก่อนเริ่มรับประทานอาหาร]
- Bon appétit ! [ขอให้เจริญอาหาร]
Au moment de commencer à boire (trinquer) : [ก่อนเริ่มดื่ม]
- A votre santé ! [เพื่อสุขภาพของคุณ]* A la vôtre ! [เพื่อสุขภาพของคุณ]* A la tienne ! [เพื่อสุขภาพของเธอ]* Tchin, Tchin ! [(อ่าน "ชิง-ชิง") = ชิ๊ง-ชิ๊ง]+ Au succès de notre projet ! [เพื่อความสำเร็จของเรา]
A quelqu'un qui est malade : [กับผู้ที่ไม่สบาย]
- Soigne-toi bien ! [ดูแลตนเองนะ / รักษาสุขภาพด้วยนะ]
- Remets-toi vite ! [หายเร็วๆนะ]
- Meilleure santé ! [ขอให้มีสุขภาพดี]+ Prompt rétablissement ! [หายเร็วๆนะ]
A quelqu'un qui va dormir : [กับผู้ที่จะไปนอน]
- Bonne nuit ! [ราตรีสวัสดิ์]
- Dors bien ! [หลับให้สบายนะ]
- Fais de beaux rêves ! [นอนหลับฝันดีนะ]